เลสเตอร์ ซิตี้ ความเป็นไทยในแผ่นดินอังกฤษ

ฉายา “จิ้งจอกสยาม” กลายเป็นคำที่แฟนบอลชาวไทยทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จากการที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จากประเทศไทย ได้เข้าไปซื้อกิจการทีมฟุตบอล ของ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยที่ในฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งถือเป็นปีแรกของการเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ชื่อของสนามหลักของทีมเลสเตอร์ เดิมเคยชื่อว่า วอล์กเกอร์ สเตเดี้ยม ให้กลายเป็นชื่อ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูแฟนบอลอังกฤษมากนัก เว้นเสียแต่ว่า แฟนบอลบางคนที่เคยมาเยือนประเทศไทย ก็คงจะพอคุ้นหน้าคุ้นตา ร้านค้าปลอดภาษีในนาม escapeSingleQuotคิง เพาเวอร์escapeSingleQuot ที่สนามบินอยู่บ้าง ความกังขาในการเข้าเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล โดยชาวต่างชาติ นำมาซึ่งความไม่ไว้ใจ และขุ่นเคืองอยู่เนืองๆ ของแฟนบอลท้องถิ่น นี่คือสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับทั้งเจ้าของทีม และทีมงานทั้งหมด รวมถึงนักเตะ
กว่าที่เจ้าของคนไทย อย่าง คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสร และบุตรชาย คุณ ต๊อบ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรคนปัจจุบัน จะสามารถเอาชนะใจชาวเมืองเลสเตอร์มาได้ กระทั่งสามารถพาทีมฝ่าฟันอุปสรรค จนกลายเป็น ‘เทพนิยายเลสเตอร์’ ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2015/16 มาได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และต่อด้วยล่าสุด ในฤดูกาล 2020/21 ยังได้แชมป์เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ และ รางวัล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มาครอง ก็ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย
เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างความประหลาดใจ และความน่าสนใจ ให้แฟนบอลท้องถิ่น แล้วยังทำให้แฟนบอลจากทีมอื่นๆ ไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศอังกฤษ ต่างพากันหันมามองการก้าวย่างของทีม ‘จิ้งจอกสยาม’ หรือ ในนาม ‘The Fox’ นี้ อย่างพินิจพิจารณามากขึ้น อะไรที่ทำให้เลสเตอร์ ซิตี้ มาถึงจุดนี้ได้
‘ความเป็นไทย’ คือส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิด วัฒนธรรมที่ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกัน ดูแลกันแบบครอบครัว คอยให้กำลังใจกัน และไม่ได้มองเพียงแค่ผลแพ้ชนะ แต่มันคือการเรียนรู้และเติบโตไปอย่างยั่งยืน
เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมที่จะผลักดัน ให้คนมีฝันทุกคน สามารถทำให้สิ่งที่หวังเป็นจริงได้ และนี่คือหนึ่งใน ปณิธาน ของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา – The Possible Man ชายที่ทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้
เอกลักษณ์ของเจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ คือ พวกเขาผูกพันกับคนในท้องถิ่นมาก น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นแฟนบอลได้ใกล้ชิด ถ่ายรูป กับเจ้าของทีมฟุตบอลอื่นๆ หรือแม้แต่การฉลองถ้วยรางวัล ก็แทบจะไม่ค่อยเห็นเจ้าของทีมคนไหนลงสนามไปแสดงความยินดี แบบเป็นกันเอง
ตั้งแต่คนไทย มาเป็นเจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ วัฒนธรรมหลายอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ไม่ใช่เปลี่ยนทั้งหมด แต่ค่อยๆผสมผสาน ปรับเข้าหากัน จนกลายเป็นความรักและความผูกพันแบบครอบครัว มากกว่าการเป็นแค่สโมสรฟุตบอล
สุภาษิตไทยกล่าวว่า “ฝนทั่งให้เป็นเข็ม” หมายถึง ความเพียรพยายามในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จ เป็นถ้อยคำที่สะท้อนสิ่งที่ เจ้าของชาวไทย ได้แสดงให้แฟนบอลเลสเตอร์ และทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าอุปสรรคจะหนักหนาแค่ไหน ขอแค่มีความจริงใจ และตั้งใจ ทำให้ดีที่สุด อย่างสุดกำลัง ผลสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้
ในที่สุด ชาวเมืองเลสเตอร์ ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงของเจ้าของชาวไทยแล้ว จึงได้ค่อยๆเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติที่มีต่อพวกเขาทีละน้อย รวมถึงการเข้าใจคนไทย และวัฒนธรรมไทยมากขึ้น จนถึงตอนนี้ แทบจะเรียกได้ว่า ใครที่เป็นคนไทยในเลสเตอร์ จะได้รับการต้อนรับขับสู้ ด้วยไมตรีจิตอย่างดีจากแฟนบอล และคนท้องถิ่นอยู่เสมอ
ทุกวันนี้ ที่สนาม คิง เพาเวอร์ ผู้คนจะคุ้นเคยกับความเป็นไทย ในหลากหลายด้าน
ภาพของ เจมี่ วาร์ดี้ นั่งพนมมือ ฟังพระสวด ในพิธีสงฆ์, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล น้อมรับการให้พรจากพระสงฆ์ไทย หรือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ ค่อยๆบรรจงกรวดน้ำ และพนมมือไหว้อย่างงดงาม กลายเป็นภาพข่าวที่ลงในสื่อของอังกฤษ และทั่วโลก หากเจ้าหน้าที่ในสนามรู้ว่า คุณเป็นคนไทย เขาจะทักทายด้วยคำว่า “สวัสดี” อย่างไม่เคอะเขิน
สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ดูแปลกอีกต่อไป ในสายตาแฟนบอลอังกฤษ เพราะทุกคนเห็นสิ่งเหล่านี้แล้ว รู้สึกถึงความเคารพ ในความแตกต่าง เคารพในความนอบน้อม และเคารพในจิตใจอันยิ่งใหญ่ของคนไทย ที่พวกเขาได้ประจักษ์แก่สายตามาแล้วว่า คนไทย “ไม่ได้มาเล่นๆ”
ทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน หากยอมรับในความแตกต่าง เปิดใจ และรวมกันมุ่งมั่นสู่เป้าหมายอย่างสมัครสมาน สามัคคี ผลอันดีเยี่ยมย่อมเป็นไปได้ และความสุขจะมีให้กับทุกคน นี่คือสิ่งหนึ่งที่คนไทย ได้สร้างไว้ให้แก่สายตาชาวโลกแล้ว ณ สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมของคนไทย ที่ไม่ใช่แค่การนำพาทีมฟุตบอลนอกสายตา ไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ แต่คือการนำเอาด้านที่ดีงามของความเป็นไทย ออกสู่ชาวโลกอีกด้วยเช่นกัน.
เขียนโดย The Lite Team.

